คราวก่อนพาเพื่อนๆ เข้าไปซอกแซก  บ่อเล็กของพี่อู๋   ครานี้มาว่ากันที่ของจริงบ่อที่เห็นในรูปทั้งหมด
นี่แหละ  บ่อนี้เป็นบ่อที่ดีสมสมบูรณ์แบบบ่อหนึ่งทีเดียว   พี่อู๋ออกแบบและวางระบบทั้งหมด   ควบคุมงาน
เองทั้งหมดเหมือนกัน   เพราะไม่ได้จ้างช่างมารับเหมา  ผลที่ออกมาอย่างหนึ่งที่น่าพอใจคือ ประหยัดเงิน
ไปได้เยอะ  โดยประมาณการจากที่ผู้รับเหมามาตีราคาไว้  ราคาออกจะไปทางมหาศาลประมาณสร้างบ้าน
หลังงามๆ อยู่เองได้อีกหลัง
       เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา   เราค่อยๆ มาไล่ดูเก็บรายระเอียดของบ่อ๋กันดีกว่า   ใครที่กำลังจะสร้างบ่อ
ตามนายรันเข้ามาเลยครับ   เผื่อจะได้ไอเดียไปประยุกต์ใช้กับบ่อของคุณบ้าง   เอาไปประยุกต์ใช้ตามความ
เหมาะสมนะครับ   ไม่ต้องลอกเลียนแบบหมดทุกอย่าง   อะไรที่ดูดีเข้าท่าก็จดจำไว้   ส่วนอะไรที่ดูแล้วไม่
น่าจะเวิร์กก็อย่าไปจดจำ   แต่ละบ่อแต่ละสถานที่องค์ประกอบต่างๆไม่เหมือนกัน    เอาความเหมาะสมเข้า
ว่า  อย่าไปตามเค้าเสียทุกอย่าง













        บ่อของพี่อู๋บ่อนี้เป็นบ่อฟรีฟอร์ม  ที่มีขนาดใหญ่และก็ยาวทีเดียว
เมื่อเทียบกับบ่ออื่นๆ ที่นายรันเคยผ่านตา  จุดเด่นของบ่อนี้ที่ไม่เหมือน
ใคร   และใครก็คงไม่อยากเหมือนคือ   ตัวบ่อถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน
สามโซน   แน่นอนการดูแลต้องยุ่งยากกว่าบ่อทั่วๆ ไป  ใครที่ดูแล้วคิด
จะทำเลียนแบบ   โปรดใช้สะดือตรองใหเถ้วนถี่ก่อนนะจ๊ะ  บอกได้เลย
ว่าไม่ยากแต่ก็ไม่หมู   ต้องมีใจรักอย่างแรงถึงจะดูแลมันได้
       ปริมาณของน้ำในบ่อ  ไม่รู้ว่ามีปริมาณกี่ตัน  เนื่องจากตัวบ่อเคี้ยว
คดลดเลี้ยวซะเหลือเกิน   หมดความพยายามที่จะมานั่งคำนวณ   บวก
บวกลบคูณหาร
       โซนบ่อทั้ง 3 ถูกออกแบบ   แบ่งเป็นส่วนๆ ดังนี้
       ส่วนที่หนึ่ง   เป็นส่วนที่เป็นน้ำตกประดับบ่อ   อยู่ตรงหน้าเทวรูป
น้ำในบ่อจะถูกดูดขึ้นไปบนศรีษะเทวรูป   แล้วปล่อยให้ไหลลงมาเสียง
ดังซู่ซ่า  ดังเสียงดนตรีสวรรค์มาขับกล่อม
      ส่วนที่สอง   อยู่ถัดมาเป็นลักษณะทางน้ำไหล   ต่อเนื่องกับบ่อแรก
      ส่วนที่สาม   ก็คือบ่อเลี้ยงจริงๆ  ลึกเฉลี่ยประมาณ 1.8 เมตร
      บ่อพี่อู๋รวมกันทั้งสามส่วนจะมีขนาดทั้งใหญ่ทั้งยาว   กล้องที่นาย
รันใช้   ไม่สามารถเก็บภาพได้หมดทีเดียวทั้งบ่อ    แต่ก็ดีเหมือนกันจะ
ได้พา ชมเป็นส่วนๆ ไปไม่ปะปนกัน   ดูพร้อมๆ กันทั้งสามส่วนเกรงว่า
จะยุ่ง เหยิงสับสนซะมากกว่า
      เน้นไปที่รูปภาพบรรยากาศมากกว่าเนื้อหาบรรยายนะครับ  บ่อดีๆ
สวยๆ อย่างนี้ต้องชมภาพกันเยอะๆหน่อย  ไม่อยากให้มีตัวหนังสือไร้
สาระมารบกวนเกะกะลูกกะตามากนัก
      ส่วนที่หนึ่งที่เป็นต้นบ่อ   อยู่ติดกับกำแพงบ้านด้านหลัง  เป็นมุมนิ
ยมสำหรับบ่อที่มีน้ำตก   เคยสังเกตกันไหมครับ  ทุกๆ บ้านที่สร้างน้ำ
น้ำตก   จะต้องอยู่ติดกับกำแพงเสมอไป   ทำไมมันเป็นเช่นนั้นหนอ
     พี่อู๋เป็นคนไม่ธรรมดามีขาดมีเกินมากกว่าชาวบ้าน  ไอ้เรื่องที่จะทำ
น้ำตกไหลผ่านแนวหินเลียนแบบธรรมชาติ เมินเสียเถอะ  พี่แกเล่นไหล
ไหลผ่านกระบาลโป๊งเหม่งเทวรูปเลยจ๊ะ  เวรกรรม..ล่ะท่านเทวรูปเอ๋ย
เหม่งเปียกทั้งปีทั้งชาติแน่
       เทวรูปนี้ถ้าจำไม่ผิด  ได้ยินพี่อู๋แกบอกว่า  สั่งแกะมาจากหินทราย
แดงทรายเขียวอะไรของแกนี่แหละ   นายรันไม่ไม่ค่อยรู้เรื่องหินอะไร
ไรกะเค้า   รู้แต่ว่าเทวรูปนี้หน้าตาดูเรียบเฉยไม่พูดไม่จา  ถ้ามานั่งเล่น
ที่บ่อนี้ตอนกลางวันก็โอเค    แต่พอพระอาทิตย์ตกดิน   ต้องขอตัวเผ่น
ก่อนก่อนล่ะ  บอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยไว้ใจเทวรูปองค์เท่าไหร่  มาบ่อพี่อู๋
ทีไร   มีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมองชอบกล  บรื๋อส์..
       ขอเตือนผู้ที่มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนบ่อพี่อู๋   แล้วชอบไปนั่งเก็กตรง
หน้าเทวรูป   อย่ามั่นใจนะครับว่าก่อตั้งไว้อย่างมั่นคงแน่นหนา   ดีไม่
ดี   พวกดันล้มคว่ำลงมาทับกระบาลแบะ   เป็นได้ลงไทยรัฐหน้าหนึ่ง
โดยไม่จำเป็น
        บ่อส่วนแรกหน้าเทวรูป   เป็นบ่อน้ำตกเฉยๆ ไม่ได้คิดไว้เลี้ยงปลา
  บ่อนี้มีระดับความลึกไม่ถึงเมตร  ในบ่อมีไม้ น้ำประดับอยู่บ้างเล็กน้อย
  พี่อู๋บอกว่าอ่านเจอในนิตยสารนิชิริน    ที่ญี่ปุ่นบางบ่อจะปลูกไม้น้ำไว้
  เพื่อเป็นการสร้างสภาพองค์ประกอบทางเคมีของน้ำให้เหมือนธรรม
  ชาติ   เพราะว่าการที่น้ำในบ่อที่เลี้ยงถูกกักไว้ในบ่อปูน   สารประกอบ
  แร่ธาตุทางธรรมชาติ   ที่ปลาควรจะได้รับนั้นไม่มีเลย   การใส่ไม้น้ำ
  ลงไปในบ่อ   ซึ่งแน่นอนต้องมีดินปะปนอยู่ด้วย   จะช่วยตรงจุดนี้ได้
  ถ้าดูและให้สะอาดก็จะเป็นผลดีต่อปลาอย่างยิ่ง   จริงไม่จริงอันนี้นาย
  รันก็ไม่รู้นะ  สูตรใครก็สูตรใครก็แล้วกัน
        น้ำตกไม่ได้ถูกเปิดตลอดเวลา   พี่อู๋เค้าจะเปิดเป็นบางเวลาเท่านั้น
  ในช่วงที่มานั่งดูปลา  ก็ดีเหมือนกันครับ  ในช่วงเศรษฐกิจบ้านเราย่ำ
  แย่ยักยันอย่างนี้  การช่วยกันประหยัดพลังงานถือว่าเป็นการช่วยชาติ
  ทางหนึ่ง
        ส่วนที่สอง 
ที่จริงแล้วคือส่วนเดียวกับส่วนที่หนึ่งนั่นแหละะ แต่
  ที่ทำให้ส่วนนี้ดูเหมือนแยกออกมาจากส่วนที่หนึ่ง  เพียงแค่มีสะพาน
  หินพาดผ่านเท่านั้นเอง  แต่ที่เจตนาจงใจแยกออกมาให้ดูเป็นอีกส่วน
  เพราะว่าตรงส่วนนี้โครงการในวันหน้า    อาจถูกดัดแปลงให้เป็นบ่อ
  กรอง   เมื่อเวลาเปิดน้ำตก  น้ำในส่วนที่ถูกดึงมาใช้นั้น   จะมาจากบ่อ
  เลี้ยง   ดังนั้นจึงนอนแน่เป็นแช่แป้ง  น้ำที่ตกลงมาจะต้องไหลกลับไป
  ยังบ่อเลี้ยงพันเปอร์เซ็นต์  ถ้าขืนไม่ไหลกลับน้ำในบ่อเลี้ยงเป็นได้แห้ง
  ซี้แหงแก๋ทั้งปลาทั้งคนเลี้ยง
       น้ำที่ถูกสูบขึ้นไปทำน้ำตก   ก่อนที่จะกลับสู่บ่อเลี้ยงจะต้องไหลลง
  มาในส่วนที่หนึ่งหน้าเทวรูปก่อน    ตรงจุดนี้แหละที่ทำให้เกิดความ
  ไม่แน่ใจว่า  จะพัดพาเอาสิ่งสกปรกต่างที่อยู่ในบ่อส่วนที่หนึ่ง  ลงไป
  ในบ่อเลี้ยงด้วยหรือเปล่า   เพราะว่าน้ำตกไม่ได้เปิดอยู่ตลอดเวลา  จะ
  เปิดก็ต่อเมื่อพี่แกมีอารมณ์สุนทรีย์เท่านั้นเอง
       อย่างที่รู้กันโดยทั่วไป  ว่าน้ำที่ไม่มีการยักย้ายถ่ายเท  มักจะเป็นที่
  โปรดปานเสน่หาของบรรดาเจ้าสิ่งซกมก โสมม มามั่วสุมกัน  พี่อู๋เลย
  มีไอเดียจะดัดแปลงตรงส่วนนี้  ให้เป็นบ่อกรอง  เพื่อกรองสิ่งสกปรก
  ไม่ให้ไหลลงไปในบ่อเลี้ยง  นี่คือแผนการณ์ที่พี่แกวางไว้ครับ   แต่จะ
  ทำจริงหรือไม่อันนี้ก็ตอบแทนไม่ได้เหมือนกัน   เพราะว่ามาบ้านแกที
  ไร   แกเปลี่ยนแผนทำอย่างโน้นดีกว่าอย่างนี้ดีกว่า   ว่าไปเรื่อยได้ทุก
  อาทิตย์เหมือนกัน









       รูปที่นำมาให้ดูในวันนี้เป็นรูปที่ถ่ายไว้นานแล้ว  ซึ่งในปัจจุบันบาง
อย่างได้ถูกดัดแปลงไปไม่เหมือนในรูป  จะมีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ก็หน้าตาเทวรูป   ยังดูซื่อๆ บื้อๆ ไม่สนโลก  แต่แฝงไว้ด้วยความความ
น่ากลัว  สยึ๋มกึ๋ยส์...ชอบกลเหมือนเดิม ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกไม่ค่อยถูกชะ
ตากับเทวรูปองค์นี้เลยจริงๆ สิพับผ่า  มานั่งเล่นที่บ่อนี่ตอนกลางวันล่ะ
พอไหว  ตกค่ำต้องถลกจีวรเผ่นก่อนล่ะอยู่ไม่ไหวกลัว  นั่งอยู่ดีๆ ดันส่ง
ยิ้มมาให้  บรรลัยกันเชียวล่ะโยม!
        มาถึงตรงนี้คงต้องโบกมืออำลาบ่อพี่อู๋   หวังว่าดูจากภาพที่นำมา
ประกอบคงชอบนะครับ  ขอบอก..  ตัวจริงสวยกว่าในภาพมากมายนัก
มีโอกาสลองแวะไปเยี่ยมชมไม่ใกล้ไม่ไกลลาดพร้าวนี่เอง 
<< End >>







<<<  กรุณาชมเวบนี้ด้วย  Explorer Browser ความละเอียดหน้าจอ  1024 X 768 พบข้อผิดพลาด โทร 01-4598555 นายรัน  >>>