สังเกตว่าปัจจุบันมีคนหนุ่มๆ หันมาเลี้ยงปลาคาร์พกันมากขึ้นกว่าแต่เดิม  ซึ่งแต่ก่อนจะเป็น
ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานหรือผู้ใหญ่เสียมากกว่า  ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของวงการปลาคาร์พบ้านเรา
การเลี้ยงปลาไม่เคยให้โทษกับผู้ใด  ในทางตรงกันข้ามกับก่อประโยชน์อย่างมากให้แก่ผู้เลี้ยงทุก
เพศทุกวัย  อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้จิตใจมีความสงบ  มีสมาธิมากขึ้น  คุณป๊อปเป็นอีกหนึ่งหนุ่ม
ที่หลงใหลสเน่ห์ของปลาคาร์พ  จัดเป็นมือใหม่ที่มีพัฒนาการในการเลี้ยงอย่างรวดเร็ว  เป็นคน
หนุ่มรุ่นใหม่ของวงการที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
        - การเลี้ยงปลาคาร์พของคุณป๊อป  มีความเป็นมาอย่างไรครับ..
        คุณป๊อป- เริ่มเลี้ยงอย่างจริงจังเมื่อตอนที่ผมกลับมาจากอเมริกาประมาณเจ็ดปีที่แล้ว พอมา
อยู่เมืองไทย  เลยนึกอย่างจะมีบ่อเล็กๆ ไว้เลี้ยงปลาคาร์พสักบ่อนึ่งที่บ้าน  คือเมื่อครั้งเป็นเด็ก ผม
มีพื้นฐานในการเลี้ยงปลาคาร์พมาก่อน   แต่เลี้ยงแบบเรื่อยเปื่อย  ไม่รู้หรอกว่าปลาอะไรเป็นอะไร
บ่อแรกที่เลี้ยงมีขนาดจุน้ำห้าตัน  สร้างเสร็จก็ไปซื้อปลาที่จตุจักรมาเลี้ยง  จนวันหนึ่งเพื่อนผมได้
ได้แนะนำว่า  ลองไปดูปลาที่บางกอกฟาร์มสิ   ก็ไปดูและก็ซื้อติดมือมาสามตัว  เป็นปลาไซส์สาม
รวมราคาประมาณเจ็ดพันบาท   ซึ่งราคานี้เป็นปลาที่ไม่สวยเท่าไรนักสำหรับบางกอกฟาร์ม  แต่
สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงอย่างผม   มันก็ดูโอเคนะ  ชอบมากมีความรู้สึกว่ามันสวยจัง  จำได้ว่าวัน
ยืมเงินเพื่อนซื้อด้วยซ้ำไป   ไม่ได้พกสตางค์ไป  ซื้อมาแล้วก็เลี้ยงในบ่อแรกนั่นแหละ
        - แล้วบ่อที่เลี้ยงในปัจจุบันนี่ล่ะครับ สร้างตั้งแต่เมื่อไหร่
       
คุณป๊อป- บ่อนี้ผมสร้างโดยไม่ได้บอกทางบ้าน  แอบสร้าง
  คือคุณแม่ผมท่านจะบินไปมาระหว่างเมืองไทยกับอเมริกา  อยู่
  เมืองไทยเดือนอเมริกาสามเดือนประมาณนี้  ผมรอจังหวะช่วง
  ที่ท่านไม่อยู่  โทรตามผู้รับเหมาให้มาตีราคา ใช้พื้นที่ว่างตรง
  หน้าบ้านทั้งหมด  แต่มันก็มีปัญหาจนได้  ผู้รับเหมาสร้างออก
  มาไม่ตรงกับสเป็คที่ตกลงกันไว้แต่แรก  ซึ่งความจริงมันน่าจะ
  ได้บ่อที่กว้างและลึกกว่านี้  ท้ายสุดได้แค่สามคูณเจ็ดเมตร  ใน
  เรื่องความกว้างพลาดไปแล้วผมยอมรับได้  แต่เรื่องความลึกนี่
  สิทำผมเสียความรู้สึกมาก  ตอนแรกที่ตกลงกันไว้  ความลึกอยู่
  ที่ระดับ 1.80 เมตร ตอนเช้าก่อนไปทำงานยังคุยกันไว้ที่ระดับ
  นี้  ตอนเย็นผมกลับมาบ้านปรากฏว่าเทพื้นไปแล้ว  จุดลึกสุดอยู่
  ที่ระดับ 1.4 เมตร แค่นั้นเอง  เมื่อเทพื้นไปแล้วก็แก้ไขอะไรไม่
  ได้แล้ว  ต้องจำใจยอมรับสภาพไป  ซึ่งที่จริงแล้วมันควรจะได้
  ความลึกมากกว่านี้   ความจุน้ำของบ่อประมาณ 30 ตัน  สร้าง
  เสร็จมาสี่ปีแล้ว  เลี้ยงบ่อเก่าอยู่สองปีกว่า  ปลาจากบางกอกชุด
  แรกก็ตายไปบ้างหายไปบ้าง   มาระยะหลังนี้ผมไปซื้อปลาจาก
  ฟาร์มอื่นๆทั่วไป
        - งบประมาณในการสร้างบ่อขนาดนี้  เมื่อสี่ปีก่อนตกราคา
  เท่าไหร่ครับ
       
คุณป๊อป- บ่อนี้สร้างไม่แพงประมาณ 80,000 บาท  ถือว่า
  ถูกมาก  คือผมเพิ่งเริ่มเลี้ยงไม่อยากลงทุนกับตรงนี้มาก   แต่รา
  คานี้ปัจจุบันสร้างไม่ได้อย่างแน่นอน  เพราะราคาวัสดุก่อสร้าง
  แพงกว่าแต่ก่อนมาก
        - รู้สึกว่าคุณป๊อปจะกังวลเรื่องความลึกของบ่อ ช่วยบอกได้
  ไหมครับว่า  ความลึกของบ่อเลี้ยงมีผลกับการปลาอย่างไร
       
คุณป๊อป- บอกได้เลยว่าระดับความลึกของบ่อ  มีผลต่อปลา
  มากถึงมากที่สุดในเรื่องของโครงสร้าง  ปลาที่เลี้ยงน้ำลึกโครง
  สร้างจะดีกว่า  ปลาจะโตเร็ว  ถ้าเลี้ยงในบ่อตื้นๆ  ต่อให้มีพื้นที่
  ว่ายในบ่อขนาดไหน  ถ้าอัดอาหารมากๆ ปลาจะท้องห้อยโครง
  สร้างน่าเกลียดมาก   เสียรูปทรงเสียปลาไปเลย  ต่อให้เป็นปลา
  สายพันธุ์ดีขนาดไหนก็ตาม
        แต่ถ้าถามว่าเลี้ยงน้ำตื้นปลาโตไหม  ผมว่าโตครับแต่โครง
  สร้างมันจะไม่สมบูรณ์เหมือนกับเลี้ยงน้ำลึก  ถ้าเป็นบ่อที่ลึกเกิน
  1.5 เมตรขึ้นไป  เวลาที่ปลานอนกลางคืน  ความลึกที่ระดับน้ำ
  ต่ำกว่า 1.5 เมตรลงไป จะไปช่วยอัดบีบโครงสร้างปลาเหมือน
  กับว่าปลาได้ออกกำลังไปในตัว  ปลาโครงสร้างจะแน่น ท้องจะ
  กระชับไม่ย้อย

















        - ระบบบ่อกรองใช้แบบไหน
       
คุณป๊อป- ระบบน้ำล้นน้ำลอดธรรมดา  ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป  มี
ช่องมีเดียสองช่อง  ช่องแรกเป็นประการังเบอร์สอง ช่องสองใส่
ปะการังเบอร์ศูนย์  แต่ทั้งสองช่อง  ผมใส่เปลือกหอยนางรมทับ
ไว้ด้านบน  เปลือกหอยนางรมจะช่วยได้มากเลยในเรื่องค่า PH.
ไดโว่ร์ผมใช้ขนาดนิ้วครึ่ง GM10
        - บ่อส่วนใหญ่ที่สร้างเสร็จใหม่ๆ  มักจะประสบปัญหาใน
เรื่องน้ำเขียว  บ่อคุณป๊อปประสบปัญหานี้หรือไม่
       
คุณป๊อป- น้ำเขียวอยู่ประมาณสามเดือนกว่าแน่ะครับ  ด้วย
ความที่เพิ่งหัดเลี้ยง ไม่รู้ว่าน้ำเขียวเกิดจากสาเหตุอะไร  พอมารู้
ว่าหลักๆ เกิดจากตะไคร่แขวนลอย   ผมก็ใช้วิธีตัดแสงเพื่อไม่ให้
มันเจริเจริญเติบโตได้ดีเกินไป
        ในช่วงที่เขียวจัดผมใช้แสลนคลุมพรางแสงประมาณ 2-3
วัน  น้ำก็กลับมาใสเหมือนเดิม  แต่ครั้งแรกเคยใช้วิธีที่ฟาร์มแนะ
นำมา  เป็นผลิตภัณฑ์เคมีใส่ลงไป  แต่ผมว่ามันทำสีปลาเพี้ยนไม่
แนะนำให้ใช้   อยากให้ใช้วิธีธรรมชาติมากกว่า  การใช้สารเคมี
จะมากจะน้อยยังไง  มันก็มีผลต่อปลาแน่นอน

        - เลี้ยงมาสี่ปีแล้ว  ถึงตอนนี้มุมมองในการเลี้ยงเปลี่ยนแปลง
ไปอย่างไรบ้างครับ
       
คุณป๊อป- แต่ก่อนเวลาดูหรือเลือกซื้อปลา  ผมจะดูจากลวด
ลายเป็นหลัก   คือเข้าใจว่าราคาของปลาอยู่ที่ความสวยของลวด
ลาย  จะไม่ค่อยสนใจเรื่องโครงสร้าง  แต่ตอนนี้อันดับหนึ่งต้อง
โครงสร้าง   โครงสร้างต้องมาก่อน  แล้วก็คุณภาพของสีสัน  ที่
จริงลวดลายก็สำคัญนะครับในเชิงพาณิชย์  เดี๋ยวนี้จะซื้อปลาสัก
ตัวต้องรู้ถึงที่ไปที่มา  อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องรู้ว่ามันเป็นปลาที่มา
จากไหน  ฟาร์มไหนเป็นผู้บรีด
        - ชอบเลี้ยงปลาสไตล์ไหน ปลาใหญ่หรือปลาเล็กครับ
       
คุณป๊อป- ใจจริงผมชอบปลาเล็ก   มันมีความเปลี่ยนแปลง
ให้ให้เราได้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา  เลี้ยงไปศึกษาไปได้ความรู้เหมือน
กับมันเป็นอาจารย์ให้เรา   ปลาใหญ่ที่สวยแล้วจ่ายเงินซื้อเอามา
เลี้ยง  อยู่อย่างไรก็อย่างนั้น  ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงให้ดู





        -  เล่าให้ฟังหน่อยสิว่าปลาที่เลี้ยงไว้ ตัวไหนเป็นมาอย่างไร
        คุณป๊อป- ส่วนตัวผมชอบปลาซาไก  ซาไกเป็นปลาที่ขายตัวเองได้ อย่างปลาไซส์ 10-15 ซม. แต่โครงสร้างมัน
จะใหญ่  เหมือนจับเอาปลาใหญ่มาย่อส่วน  โครงสร้างปลาซาไกจะใหญ่ตั้งแต่เล็กมีไหล่  มีข้อหาง  เหมือนปลาใหญ่
เทียบกับปลาฮาเซกาว่าที่ผมเลี้ยง  โครงสร้างมันจะเล็กแคบๆ แต่จะมาใหญ่เอาตอนหลัง  ปลาโมโมทาโร่ก็เหมือนกัน
แต่ปลาซาไกจะสวยตั้งแต่เล็ก  ในเชิงพาณิชย์ปลาซาไกจะขายตัวเองได้
        ชิโร่เป็นของโอโมซาโกะ  เพื่อนผมที่เลี้ยงชิโร่ของโอโมซาโกะด้วยกัน  มีทั้งที่เลี้ยงๆ ไปแล้วแดงขึ้นและที่แดง
ไม่ขึ้นก็มี  แต่ของผมโชคไม่ดีสีแดงขึ้น  ของอย่างนี้มันห้าสิบห้าสิบเอาแน่นอนไม่ได้   ชิโร่ตัวนี้ตอนเล็กๆ เป็นปลาที่
สวยมาก  แต่ปลาที่สวยตั้งแต่เล็กโตขึ้นก็ใช่ว่าจะสวยเหมือนเดิม  บางคนไม่เข้าใจไปซื้อปลาเบบี้แชมป์ราคาเป็นแสน
เป็นล้านมาเลี้ยง  คิดว่ามันโตขึ้นแล้วมันจะสวยเหมือนเดิม  ปลาทุกตัวไม่ว่าจะสวยขนาดไหน  มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้
ทั้งนั้น
        คุจากุไม่รู้ว่าฟาร์มไหนบรีด   แต่ผมได้มาจากชิพเมท  ตัวนี้เดิมที่มีคนจองไว้แล้วแต่ว่าเปลี่ยนใจไม่เอา  ผมเลย
ซื้อมา  ทีแรกที่ตัดสินใจซื้อผมรู้อยู่ก่อนแล้วว่ามันเป็นปลาตัวผู้   แต่มันเป็นตัวผู้ที่ล่ำมาก  ล่ำที่สุดของคุจากุชุดนั้น  สี
มันดีมาก  พอมาเลี้ยงสักพักส่งเข้าประกวดในงาน C.N.C. ได้ที่ 2 เป็นปลาที่โตเร็วและหุ่นแน่นมาก  แต่โครงสร้าง
อาจจะไม่เทียบเท่าปลาโคฮากุ  แต่มันดีกว่าคุจากุตัวผู้ทุกตัวที่ผมเคยเห็นมา
        ซูซุยเป็นของโคนิชิ  ผมได้มาจากไทยสุวรรณฟาร์ม   ตอนที่ไปซื้อปลาในล็อตนั้นทั้งหมดมีซูซุยให้เลือกอยู่สอง
สองตัว  ผมเลือกตัวนี้เพราะเกล็ดหลังมันสวยมาก  เรียงตัวเป็นระเบียบมาก  เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ยังเล็กคมชัดอย่างนี้ตั้ง
แต่แรก  ไม่ใช่ว่ามาคมชัดเอาตอนใหญ่  โตขึ้นมาอย่างไรก็อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลงเลย  มันสามารถรักษาระดับความ
สวยของเกล็ดหลังไว้ได้อย่างคงที่  ตอนที่ตัดสินใจซื้อยังแอบหวังอยู่ในใจว่าอาจโชคดีเป็นปลาตัวเมีย   แต่ตอนนี้เริ่ม
แน่ใจแล้วว่าเป็นตัวผู้  แต่ถึงจะเป็นตัวผู้ถ้าเกล็ดสันหลังยังคงอยู่ในระดับนี้  ผมก็พอใจ
        ซูซุยอีกตัวเป็นตัวใหญ่  ได้มาจากชิพเมท  ตัวนี้เป็นปลาตัวผู้ชัดเจน  ช่วงที่เลี้ยงในปีแรกจะเป็นปลาผอมๆ ไม่ล่ำ
เท่าไหร่  แต่พอมาระยะหลังพฤติกรรมการกินอาหาร ของมันเปลี่ยนไปในทางที่ดี  จากเป็นปลาที่กินน้อยกินเม็ดสอง
เม็ด  แล้วก็ว่ายไปตามประสาปลาตัวผู้  ก็เริ่มกินเก่งขึ้นกินมากขึ้น  พอผมเห็นมันเริ่มกินอาหารเก่งอย่างนี้  ก็เลยอัดอา
หารให้มันเต็มที่  ให้อาหารเสริมจำพวกวิตามินเสริมวิตามินเข้าไปด้วย  ตอนนี้โครงสร้างมันใหญ่ขึ้นมามากกว่าเก่า
เยอะเลย
        ปลาตัวโปรดเป็นโคฮากุของฟาร์มซาไก  ตอนที่ไปเลือกซื้อมีให้เลือกอยู่สามถึงสี่ตัว  ผมเลือกเอาตัวนี้ถึงแม้จะรู้
ว่ามันมีโอกาสเป็นปลาตัวผู้สูง  แต่ด้วยว่าคิว่า ซาชิ ขอบหน้า ขอบหลัง ของมันคมชัดเจนมากๆ สีแดงจัด  ก็เลยลอง
เสี่ยงเอามาเลี้ยงดูก็แล้วกัน  มามั่นใจเอาตอนหลังนี่เองว่าเป็นปลาตัวเมีย
        โอจิบะชิกูเล่ได้มาจากโค่ยมาร์ทฟาร์ม  เป็นปลาที่โตเร็วสุดๆ จากแรกที่ซื้อมา 12 ซ.ม. ปีครึ่งมันโตถึง 70 ซ.ม.
โอกอนมีสองตัว  ตัวโตได้มาจากบางกอกฟาร์ม  ตัวเล็กได้มาจากวีคาร์พ   ผมมีไดนิชิโคฮากุด้วยนะ  สีแดงมันดีมาก
แต่โครงสร้างสู้ซาไกไม่ได้  ถ้าเป็นปลาซาไกผมจะซื้อที่ไทย-นิปปอน  ซึ่งเป็นดีลเลอร์โดยตรงของฟาร์มซาไก









        - ทราบมาว่าเคยเดินทางไปฟาร์มที่ญี่ปุ่น ซื้อปลากลับมา
เลี้ยงเองด้วย
       
คุณป๊อป- ครับผมเคยไปที่ทานิฟาร์ม  เป็นฟาร์มที่อยู่บน
ภูเขาภูเขาที่นี่เปิดให้เลือกซื้อได้ตลอดทั่วไป  ไปเห็นแล้วก็ชอบ
ซื้อกลับมาสามตัว  เป็นโชวาสองตัว  โงชิกิหนึ่งตัว พอมาเลี้ยง
แล้วเป็นปลาที่โตช้า หุ่นยังเก้งก้างอยู่  แต่ในเรื่องลวดลายสวย
ถูกใจมาก
        วันที่ไปที่ฟาร์มทานิมีนักเลี้ยงญี่ปุ่นสามสี่คน  กำลังเลือก
มันอยู่  ก็เข้าไปพูดคุยกับเขา  แนะนำตัวเองว่าเป็นนักเลี้ยงปลา
เดินทางมาจากเมืองไทย  อยากได้ปลาตัวนี้  เขาก็ใจดียกให้
        ช่วงที่ไปมันเลยกลางปีไปแล้ว  ปลาที่ฟาร์มมีไม่เยอะเท่า
ไรนัก   ปลาสวยๆ เขาเอาไปขุนในบ่อดินเกือบหมด   ปลาไซส์
ใหญ่สวยๆ มีน้อย  จะมีก็แต่ปลาเล็กไซส์ 10 -20 ซ.ม.  ราคา
สูงเหมือนกันนะ ตัวสวยๆ นี่ราคาห้าหมื่นบาท  การไปซื้อปลา
ที่ญี่ปุ่น  ผมว่าควรจะมีความรู้ในการเลือกปลาบ้าง  ไม่นั้นอาจ
มีสิทธิ์ถูกหลอกที่ญี่ปุ่นได้เหมือนกัน
        - ตั้งใจจะเลี้ยงทั้งหมดกี่ตัวครับ
       
คุณป๊อป- ที่เลี้ยงอยู่ปัจจุบัน  ในบ่อนี้มีมากเกินไป  แต่ผม
เตรียมที่จะไปลงที่บ่อใหม่  ที่บ้านที่ผมซื้อไว้   ทำบ่อไว้ขนาด
130 ตัน  คือผมได้มีโอกาสคุยกับพี่โฟล์ค ( คุณวีระกิต เลาสุข
ศรี  เจ้าของสถิติบ่อ 700 ตัน ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ) ซึ่งเป็น
รุ่นพี่ที่โรงเรียนวชิราวุธ  พี่โฟล์คให้คำแนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็
สร้างบ่อใหญ่ลึกๆ ไปเลยน้อง  มันจะมีผลดีกับโครงสร้างปลา
ผมก็คิดว่าในเมื่อเราก็พอมีพื้นที่  ก็เลยสร้างบ่อ  ขนาดกว้าง 6
ยาว 9 ลึก 2.50เมตร ตอนนี้ตัวบ่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือแต่
ระบบบ่อกรอง

        พลันที่คุณป๊อปเล่าเรื่องบ่อใหม่เสร็จ  แวบหนึ่งในความ
คิด  ผมฉุกคิดได้ว่าน่าจะหยุดการพูดคุยไว้เพียงแต่เท่านี้ก่อน
ถ้าบ่อใหม่ของคุณป็อปเสร็จสมบูรณ์แล้ว   น่าจะหาโอกาสมา
เยี่ยมชมและพูดคุยอีกสักครั้ง  หลังจากที่คุณป๊อปได้เลี้ยงปลา
ในบ่อใหม่แล้ว   คาดว่าคงมีเรื่องราวแง่มุมใหม่ๆ มาเล่าสู่กัน
ฟังบ้าง คอยติดตามนะครับ  << End >>
 
 
 

<<< กรุณาชมเวบนี้ด้วย Explorer Browser พบข้อผิดพลาด - ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับปลาคาร์พเพิ่มเติม โทร 01-4598555 นายรัน >>>