จำนวนนักเลี้ยงปลาในบ้านเราปัจจุบันนี้เพิ่มจำนวนมากกว่าแต่ก่อนนะครับ   หน้าเก่าไปหน้า
ใหม่ก็เข้ามาแทนที่แต่ดูเหมือนว่า   จำนวนหน้าใหม่จะเข้ามามากกว่าจำนวนหน้าเก่าที่หายไป   ที่
บอกกว่าหน้าเก่าหายไปไม่ได้หมายความว่าเลิกเลี้ยงนะ  ที่หายหน้าหายตาไปจากวงการส่วนใหญ่
ก็ด้วยมูลเหตุปัจจัยที่ว่า   เลี้ยงมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว   ถึงจุดที่ไม่ต้องตะเข้าฟาร์มหาเลือกซื้อปลาคือมี
ปลาครบถ้วนครบจำนวนตามที่ต้องการแล้วนั่นแหละ   และคุณสุรัตน์ที่ผมถือโอกาสมาเยี่ยมชมบ่อ
ในครั้งนี้   ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนักเลี้ยงปลาหน้าเก่า   ที่ห่างหายไปจากวงการอย่างที่ผมได้กล่าวมา
จะให้เข้าฟาร์มซื้อปลาได้อีกอย่างไรเล่าครับ เพราะที่เลี้ยงอยู่ตอนนี้ร่วมร้อย   ไม่ใช่ไซส์แบบ จิ๊บๆ
เด็กๆ นะครับ   แต่ละตัวรุ่นเฮฟวีเวททั้งนั้น
          ขอแนะนำตัวคุณสุรัตน์เจ้าของบ่อปลาคาร์พก่อนนะครับ   คุณสุรัตน์ประกอบอาชีพเกี่ยวกับ
อุตสาหกรรมหนัก   เป็นเจ้าของโรงงานหลอมผลิตและขึ้นรูปทองเหลือง   ป้อนสู่โรงงานอุตสาห
กรรม   ซึ่งโรงงานดังกล่าวนี้ในเมืองไทยมีอยู่เพียงห้า แห่งเท่านั้น   ถ้าย้อนกลับไปสัก 3-4 ปีก่อน
ในช่วงที่ปลาคาร์พกลับมาบูมอีกครั้งฟาร์มปลาคาร์พรุ่นใหม่เปิดตัวกันมากมาย  ช่วงนั้นเป็นช่วงที่
คุณสุรัตน์กำลังสะสมปลาอยู่   เดินเข้าออกฟาร์มปลาเป็นว่าเล่น   เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาตั้งแต่พนัก
งานยันเจ้าของ ฟาร์ม    เพราะถ้าจัดอันดับลูกค้าแล้วแกอยู่ในระดับเกรดเอ   ซื้อง่ายจ่ายคล่องไม่
เรื่องมาก   ถ้าถูกใจบางทีซื้อเป็นล็อต   จัดอยู่ในข่ายลูกค้าในฝันของเจ้าของฟาร์มครับ
        อาศัยว่ารู้จักมักจี่กับคุณสุรัตน์  หรือที่ผมเรียกแกว่าเฮีย  มา
  ตั้งแต่เฮียยังเป็นมือใหม่หัดขับ    ยังไม่ได้สร้างบ่อเลี้ยงเสียด้วย
 ซ้ำ   ทำให้ผมรู้เรื่องราวรายละเอียด   ความเป็นมาของการเลี้ยง
 ปลาคาร์พของคุณสุรัตน์    พอๆ กับเจ้าตัวเลยทีเดียวเชียวแหละ
 ปลาส่วนใหญ่ที่แหวกว่ายในบ่อ ผมก็ได้ไปร่วมช่วยคัดช่วยเลือก
 ให้ด้วย
        จุดเริ่มต้นการเลี้ยงปลาคาร์พ  แกเคยเล่าให้ผมฟังว่า   เห็น
 เพื่อนเลี้ยงดูแล้วมันสวยดีก็เลยนึกอยากเลี้ยงมั่ง  พอดีมีที่ว่างนิด 
 หน่อยที่โรงงานพอที่จะสร้างได้   บ่อที่ว่านี้ไม่ใช่บ่อที่เห็นในรูป
 นะครับ   บ่อที่ว่านี้อยู่ที่โรงงานติดกับออฟฟิต  เป็นบ่อลอยเหนือ
 เหนือพื้นดิน  ขนาด 2 คูณ 3 ม. ได้มั้งกะจากสายตา แต่ถ้าความ
 ลึกนี่จำได้แม่นยำ  เลยทีเดียวเชียว 70 ซ.ม.  ที่จำได้แม่นก็เพราะ
 ว่า   ผมเป็นคนแนะนำแกเองแหละว่า  ทำลึกแค่หน้าแข้งก็พอ  ดู
 แลง่ายดี   เห็นปลาชัดด้วย   เฮียแกก็เชื่อผมสนิทใจ   แต่พอหลัง
 จากสร้างเสร็จซื้อปลามาลงเรียบร้อยนี่สิ  เฮียแกก็ออกอาการหงุด 
 หงิด   จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไง   ขนาดปลาปาเข้าไปไซส์ 7  ลอย
 ตัวขึ้นมากินอาหารแต่ละที สุดแสนจะทุลักทุเล  " แหม..นิรันดร์
 ไม่น่ามาแนะนำผมว่า  ลึกแค่หน้าแข้งก็พอ   นี่ผมทำลึกเผื่อไปตั้ง
 70 ซ.ม. แล้วน่ะ "  เฮียแกตัดพ้อ   อ้าว..ก็ไม่รู้นี่ว่าจะเลี้ยงจริงจัง
 นึกว่าจะเห่อชั่วครู่ชั่วคราว  ก็เลยแนะให้ทำตื้นๆ ไว้เวลาเลิกเลี้ยง
 จะได้ถมทิ้งง่ายๆ ไง  แฮ่ะๆ









        เอาหละบ่อแรกพลาดไปแล้ว..ทำใหม่  บ่อที่ 2 ตามมาติดๆ
เข้าลักษณะของมือใหม่หัดเลี้ยงยิ่งซื้อยิ่งเพลิน  กระหน่ำซื้อแบบ
ไม่ยั้ง   จนปลาล้นบ่อต้องสร้างบ่อใหม่โดยด่วน   บ่อที่ 2 นี่อยู่ที่
โรงงานเหมือนเดิน   ไม่ใช่บ่อที่ในรูปมานะครับ   บ่อที่ผมพามา
ชมเป็นบ่อที่ 3 อยู่ที่บ้าน  บ่อที่ 2 นี่คณสุรัตน์ลงทุนทุบบ่อเก็บน้ำ
สำหรับใช้ในโรงงาน  รื้อผนังออกวางท่อสะดือบ่อเทปูนทับ  กั้น
บ่อกรอง  ออกมาเป็นบ่อขนาด 2.5 คูณ 6 ลึก 2.5 ม.  ขนซื้อปลา
มาลงบ่อได้อีกอักโข   สรุปแล้วที่โรงงานของแก  มีบ่อปลาคาร์พ
ถึง 2 บ่อ   ลูกค้าที่ไปโรงงานอาจมีงง  ในใจคงนึกว่า  " เอ..โรง
งานนี้มันขายทองเหลือง  หรือขายปลาคาร์พกันแน่..วะเนี่ย "
       ความเป็นมาของบ่อที่ 3...บ่อที่เห็นนี่แหละ   บ่อนี้เกิดขึ้นได้
เพราะว่าคุณสุรัตน์ได้มาสร้างบ้านหลังใหม่  อยู่ที่ ซ.วุฒิฑากาศ
47 และแน่นอนด้วยวิสัยของคน   ที่ถูกวิญญาณปลาคาร์พเข้าสิง
มีเหลือที่จะไม่ทำบ่อปลาคาร์พไว้ด้วย   บ่อนี้ต่างกับ 2 บ่อ ที่โรง
งาน  สองบ่อแรกนั้นเป็นสี่เหลี่ยม  ส่วนบ่อนี้เป็นฟรีฟอร์มรูปทรง
เหมือนผลมะม่วง   ความลึก 3 ม.   ปริมาณน้ำที่เลี้ยงอยู่ปัจจุบัน
ประมาณ 100 ตันรวมบ่อกรอง   มีน้ำตกไหลลงบ่อสร้างบรรยา
กาศนิดหน่อย   อ้อ..ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องน้ำตกแล้ว  มีเรื่องเล่าให้
ให้ฟัง   คุณสุรัตน์แกมีเชื้อสายจีน   ตามศาสตร์ความเชื่อแล้วคน
จีนแล้วถือว่าการสร้างน้ำตกไว้หน้าบ้าน  เป็นสิ่งไม่ดีผิดหลักฮวง
จุ้ย   แต่คุณสุรัตน์แกชอบอยากทำมาก  เอ..แล้วทำไงดี  แกแก้ปัญ
หาอย่างนี้ครับ   แกทำป้ายเขียนว่า "ธารน้ำ ไหล" ไปติดไว้ที่น้ำ
ตกซะอย่างนั้นแหละ    อ้า..เห็นมั้ย...มันไม่ใช่น้ำตก   มันคือธาร
น้ำไหล  ไม่ผิดหลักฮวงจุ้ย   โอ..พระเจ้า  จอร์จ   คิดได้ไงเนี่ย.. 
ใครจะนำไปใช้ก็ได้นะครับ  ไม่สงวนลิขสิทธิ์
      ดูจากรูปจะเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อย  ไม่รกหูรกตา รอบ
 บ่อมีรั้วสแตนเลสดัดล้อมไว้ทั้งหมด    ป้องกันเด็กตกลงไป   ตอน
 สร้างครั้งแรก  ความสูงของขอบบ่ออยู่เสมอระดับพื้น   ตอนหลัง
 สร้างเพิ่มขึ้นอีกหน่อย    เผื่อไว้ป้องกันน้ำท่วม   แล้วก็ทำที่นั่งชม
 ปลาไว้ที่ขอบบ่อด้วย  หลังคาตอนแรกใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนตสีใส
 อย่างดี   ตอนหลังมารื้อออกใส่หลังคากระเบื้องธรรมดา   เพราะ
 ว่าน้ำเขียวไม่ยอมใสซักที    คุณสุรัตน์เชื่อว่า  เป็นเพราะโดดแดด
 มากเกินไป  เลยลองเปลี่ยนมาเป็นกระเบื้อง  เพื่อพลางแสงลงบ้าง
 บ่อนี้ก่อสร้างโดยวิธีตีแบบเทปูน   สะดือบ่อขนาด 6 นิ้ว  บ่อกรอง
 ใช้แบบน้ำล้นน้ำลอด   มีเดีย 2 ช่อง  ใส่อวนแทน ปะการัง   ใช้ปั้ม
 หอยโข่งขนาด 2 นิ้ว   ติดตั้งหลอด UV. ฆ่าเชื้อไว้ด้วย   สำหรับ
 หลอด UV. เป็นอะไรที่คุณสุรัตน์ ชอบมาก  ติดตั้งหมดทั้ง 3 บ่อ
 แกบอกว่าเมื่อก่อนนี้เคยมีประสบการณ์ปลาเป็นแผล  เป็นๆ หายๆ
 รักษาไม่หายขาดสัก ที    พอลองเอาหลอด UV. มาใช้   หายขาด
 โรคไม่มารบกวนอีกเลย
      ในเรื่องของปลา   คุณสุรัตน์จัดเป็นนักเลี้ยงมือโปร  ไม่ใช่ว่ามี
 ก็ซื้อไปเรื่อยเปื่อย   ปลาดีไม่ดีไม่รู้   ปลาที่ตัดสินใจเลือกซื้อทุกตัว
 จะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน   จะละเอียดเป็นพิเศษ
 กับเรื่องโครงสร้าง   ปลาทุกตัวจะต้องเป็นปลาที่โครงสร้างล่ำบึ้ก
 เลี้ยงแล้วต้องมีโอกาสโตถึงไซส์ 7 ขึ้นไป  และต้องเป็นปลาตัวเมีย
 เท่านั้นปลา  ตัวผู้ไม่มีสิทธิ์อยู่บ่อนี้   ถึงแม้ว่าจะเป็นปลาที่ลวดลาย
 สุดยอดก็ตาม   แต่ถ้าโครงสร้างไม่ใหญ่เลี้ยงแล้วแคระแกรน  ไม่
 ยอมโต   หรือเลี้ยงไปแล้วรู้ว่าเป็นตัวผู้หมดสิทธิ์อยู่ครับ







          ปลาที่ชอบเลี้ยงมากเป็นพิเศษคือปลาในกลุ่มคาวาริโมโน  ในบ่อนี้มี โอจิบะชิกูเล่ อยู่เยอะมาก  ส่วนใหญ่เป็นปลา
ของฟาร์ม มารูโช ราชาแห่งโอจิบะ บางตัวพ่อแม่มันได้รางวัลแชมเปี้ยนงาน All Japan เชียวนะครับ ได้มาจากคุณ
เอ  koi hunter มือหนึ่งของเมืองไทย  ในวงการรู้จักกันในชื่อ เอ กอย เซ็นเตอร์
 แต่โอจิบะตัวที่ใหญ่ที่สุดในบ่อนี้เป็น
ของ อิโตะฟาร์ม  คาวาริโมโนตัวอื่นที่น่าสนใจนอกจากโอจิบะ ก็มี โคซุย  ตัวนี้สุดยอดน่าจะเป็นโคซุย  ตัวที่ใหญ่ที่สุด
ในเมืองไทย   เนื่องจากในเมืองไทยมีน้อยมากไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกัน   โคซุย ตัวนี้ได้มาจาก พี่อ้วน สยามโค่ย  แฟนพันธุ์
แท้ของ สยามโค่ย  คงเคยผ่านหูผ่านตาโคซุยตัวนี้กันบ้าง   ตอนนี้ตัวมันใหญ่มากกว่าตอนที่ซื้อมาครั้งแรกเยอะ   ถ้าพี่
อ้วนมาเห็นคงจำไม่ได้แน่นอน   อีกสองตัวเด่นในบ่อเป็น ซูซุย กับ อาซากิ  ของโอกาตะฟาร์ม  ซื้อมาจาก วีคาร์พ ผมจำ
ได้ว่าช่วงที่ไปซื้อนั้น วีคาร์พได้นำเอา ซูซุยเข้ามาหลายตัว   แต่มันดันมาสีถอดในเมืองไทยซะเกือบหมด   มีตัวนี้แหละ
ที่สีไม่ตก   แถมคุณภาพสียังสุดยอดซะด้วยส่วน อาซากิ  ตัวนี้ถือเป็พระเอกตัวจริงของบ่อ   สุดยอดในเรื่องโครงสร้าง
ความล่ำและสีสัน  ในเมืองไทยหาตัวจับยาก  เคยออกรายการโทรทัศน์มีคนโทรมาถามกันหลายราย  ว่าซื้อมาจากไหน
เสียดายที่คุณสุรัตน์ไม่ได้สนในเรื่องการประกวดปลา  ไม่งั้นแฟนปลาคาร์พคงได้เห็นตัวจริงกันมั่ง
       จบจากเรื่องบ่อเรื่องปลา  เสียดายที่ว่าไม่สามารถตักปลามาถ่ายรูปให้ดูได้   ก็เลยดูขาดหายไปหน่อย  แต่ไม่เป็นไร
ดูรูปบ้านแกแทนก็แล้วกัน  พอดีว่าวันที่ผมไปถ่ายรูปบ่อนั้น   หลังจากถ่ายเสร็จเรียบร้อยกำลังเตรียมตัวกลับ ไม่รู้ว่าคุณ
สุรัตน์นึกยังไงชวนเขาไปเยี่ยมชมในบ้าน   ที่เพิ่งปลูกเสร็จย้ายเข้ามาอยู่ไม่นานนี้   ผู้ใหญ่ชวนจะปฏิเสธก็ใช่ที่  ตัวบ้าน
ดูจากภายนอกไม่ยักกะเหมือนบ้านคนมีกระตังค์ที่เห็นกันทั่วไป  รูปทรงมันออกแนวร่วมสมัยเดินส์ๆ นิดๆ เข้าใจว่าคน
ออกแบบน่าจะเป็นสะรุ่น   แต่ไม่หรอกครับคุณสุรัตน์แกบอกว่าผมออกแบบเอง   ชอบอะไรทีมันทันสมัยวัยรุ่นๆ หน่อย
คือจะบอกว่ายังไม่อยากแก่อย่างงั้นเถอะ   เหมือนผมเปี๊ยบเลย แฮ่ะ..  ก้าวแรกที่เข้าไปในบ้าน โอ้โฮ เฮะ..ทันสมัยจังเลย
อย่ากระนั้นเลยไหนๆ ก็ถ่ายรูปปลาไม่ได้แล้ว   เอารูปบ้านลงแทนรูปปลาดีกว่า  เล่นง่ายๆ แบบนี้แหละ
       คุณสุรัตน์พาผมเดินดูทั่วทั้งบ้าน   ผมก็ถ่ายรูปแชะๆๆ ของผมไปเรื่อย   ไม่ได้สนใจอะไรมาก   คือรู้ตัวว่าบุญญา
วาสนาตัวเองคงไม่พุ่งโด่งมาถึงจุดนี้   แต่มีอยู่สองห้องที่ผมก้าวเข้าไปแล้ว  แชะๆ ๆ กดชัดเตอร์ไม่ยั้ง  ห้องแรกเป็น
ห้องสปาส่วนตัว   อุปกรณ์ครบครันห้องอบไอน้ำ   อ่างอาบน้ำมีระบบน้ำวนนวดตัว  ไม่รู้เหมือนกันว่ามันนวดได้ยังไง
และก็ไม่อยากจะรู้ด้วย   ชาตินี้วาสนาคงไม่พุ่งกระฉูดมาถึงจุดนี้อีกนั่นแหละ   ถ้าถูกนวดด้วยฝ่าเท้าจิ๊กโก๋ปากซอย  ล่ะ
ก็มีโอกาศเป็นไปได้สูง





       อีกห้องนึงห้องนี้ผมชอบมาก  ขอบอก  ประตูทางเข้าเหมือน
โรงหนังชอบกล   พอเปิดเข้า  โอ้โฮ..แม่เจ้าโว๊ย   มินิเธียเตอร์ดีๆ
นี่เอง   เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อย่างดี   โซฟานั่งชมภาพยนต์
ตัวใหญ่ๆ หนังแท้  แบรนด์เนมดังซะด้วย  ราคาแพงแบบสุดๆ
ผมลองนั่งดูสบายก้นดีจัง  กลับมาถึงบ้านขี้กลากขึ้นตูดหลายดวง
เครื่องฉายภาพยนต์  จอหนังพร้อมเครื่องเสียงระดับเกรดเอ  คน
ชอบเครื่องเสียงอย่างผม   เห็นแล้วน้ำลายไหลอยากมีมั่ง   ระบบ
ควบคุมไฟแสงสว่างสร้างบรรยากาศ  ถูกออกแบบมาอย่างดี  คุณ
สุรัตน์บอกว่าห้องนี้เป็นห้องคาราโอเกะ  และก็เอาไว้ชมภาพยนต์
ด้วย   แอบถามราคาค่าตัวเท่าไหร่ฟังแล้วหูอื้อ แค่เฉพาะอุปกรณ์
อย่างเดียว  ราคาเท่ากับคนหัวไม่มีผมสี่คนมา นั่งรวมกัน  ( อ่าน
แล้วเข้าใจปล่าวเนี่ย.. ) ฝันหวานของผมสลายไปในพริบตา   คง
ต้องพึ่งพาคาราโอเกะร้านลาบเป็ดปากซอยตามเดิม
     อ่ะ โม้เพลินไปหน่อย  จบดีกว่า  หวังว่าคงชอบรูปบรรยากาศ
ดีๆ และการตบแต่งของบ่อที่ถ่ายมาให้ชมนะครับ  สำหรับใครที่
มีบ่อดีๆ น่าสนใจ   ไม่จำเป็นต้องเป็นบ่อใหญ่โตมโหฬาร  บ่อเล็ก
ก็ได้   ขอให้ดูดีน่าสนใจ  ช่วยโทร กริ๊ง กร้าง มาหน่อยเถอะ  ให้
ผมไปนำมาเผยแผ่  ให้คนรักปลาาร์พด้วยกันชมบ้างก็จะดีมากนะ
ครับ  เบอร์โทรผมครับที่หน้าเวบ  ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

                                          
<<End>>

  

<<<  กรุณาชมเวบนี้ด้วย  Explorer Browser ความละเอียดหน้าจอ  800X600  >>>